การออกแบบตกแต่งร้านกาแฟ
เมื่อคิดจะเปิดร้านกาแฟผู้ลงทุนส่วนใหญ่มักมีภาพร้านกาแฟในฝันอยู่ในใจว่าจะมีหน้าตารูปแบบเป็นอย่างไร
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีแนวคิดให้พึงตระหนักว่าการออกแบบตกแต่งร้านกาแฟเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง
เพราะบรรยากาศในการดื่มกาแฟที่ดีนั้นจะช่วยสร้างความสุนทรียะในการดื่มกาแฟอย่างมาก
โดยจะเห็นว่ามูลค่าของกาแฟในร้านที่ตกแต่งในบรรยากาศที่ดีมีระดับนั้น
จะมีราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับร้านที่ไม่ได้ตกแต่งสักเท่าไร
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในการออกแบบร้านกาแฟจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลักๆ ดังต่อไปนี้
กลุ่มลูกค้า–ทำเล ต้องรู้ว่าลูกค้าเราเป็นใครกลุ่มไหนมีรสนิยมอย่างไรการออกแบบร้านต้องไม่ขัดแย้งกับกลุ่มลูกค้าส่วนทำเลก็มีผลต่อการออกแบบคือต้องให้สอดคล้องกับย่านนั้นๆหรือสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
- งบประมาณจะเป็นตัวกำหนดว่าจะได้ร้านขนาดไหนรูปแบบอย่างไร
- สินค้าที่ขายดูว่ามีสินค้าร่วมในการขายอะไรบ้าง
เช่น อาหารว่างเบเกอรี่เป็นปัจจัยในการออกแบบให้มีความสมบูรณ์และลงตัวมากขึ้น
นอกจากนี้การออกแบบร้านที่ดีต้องมีหลักคิดเพื่อให้ลูกค้าได้อรรถรสในการดื่มกาแฟมากยิ่งขึ้น
ต่อไปนี้จะเป็นข้อคิดในการออกแบบตกแต่งร้านกาแฟที่ควรพิจารณาคือ
1. ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และสไตล์ที่ชัดเจนของร้าน
ในปัจจุบันร้านกาแฟมีมาก
การแข่งขันค่อนข้างสูงเราจึงจำเป็นต้องสร้างเอกลักษณ์เฉพาะขึ้นมา
เพื่อสร้างความแตกต่างจากร้านอื่น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของร้านว่าจะให้ร้านออกมาสไตล์ไหน
การออกแบบร้านที่ดีควรคิดให้จบทุกอย่างก่อน เช่น ชื่อร้าน โลโก้สินค้า จาน ชาม
ถ้วย ช้อน เฟอร์นิเจอร์ สไตล์การตกแต่งร้าน คอนเซ็ปต์ของร้าน ฯลฯ
เพื่อให้สอดคล้องและสัมพันธ์กันทั้งร้าน
ถ้าทำทุกอย่างได้ก็สามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของร้านขึ้นมาได้อย่างไม่ยาก
แต่ก็มีตัวแปรบางอย่างทำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมาได้ เช่น
–
การได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น ทุ่งหญ้า ภูเขา ทะเล
– ที่ตั้งของร้านอยู่ในเมืองเก่าโซนอนุรักษ์วัฒนธรรมตัวอาคาร
หรือ อาคาร ชุมชน เมือง ย่านธุรกิจที่ทันสมัยซึ่งจะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน
– ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนของเจ้าของร้าน
ในเรื่องของสไตล์การแต่งตัว ความชอบเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วแปรเปลี่ยนมาเป็นสไตล์ตกแต่งร้านที่เป็นตัวตนของตัวเองแบบเฉพาะไม่เหมือนใคร
สรุปคือต้องหาจุดขายของร้านลูกเล่น
จุดเด่นของร้านเพื่อนำเสนอลูกค้าให้ได้ และให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน
2.
เฟอร์นิเจอร์และบรรยากาศการตกแต่งร้าน
โดยทั่วไปแล้วนั้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์จะต้องสอดคล้องกับสไตล์ของร้านเช่น
Modern Style,
Country Style การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ควรรองรับลูกค้าในหลายๆ รูปแบบ
เช่นว่า ลูกค้าบางคนอยากมานั่งทำงาน, เป็นจุดนัดพบ, เจรจาต่อรองกันหรือมุมนั่งสบายๆ ดังนั้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต้องปรับเปลี่ยนได้เพื่อรองรับจุดนี้ด้วย
ส่วนบรรยากาศในร้านจะดูอบอุ่น, ขรึมๆ
หรือดูเป็นธรรมชาติก็แล้วแต่คอนเซ็ปต์ของทางร้าน
3. วัสดุตกแต่งสีแสงไฟป้ายต่างๆ
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานโครงไม้หรือเหล็กที่เกี่ยวกับโครงสร้างต่างๆ
แล้วปิดทับด้วยลามิเนตผสมงานไม้จริงการย้อมสีโทนน้ำตาลเข้มสีพ่นการเพ้นต์สีการติดอิงก์เจ็ต
หรืองานกระจกเป็นบางส่วน ซึ่งก็อยู่กับลูกเล่นของแต่ละร้านที่ต้องการนำเสนอ เช่น
มีการโชว์เมล็ดกาแฟที่หน้าร้านหรือที่เคาน์เตอร์, มีป้ายบอกแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์ต่างๆ,
ป้ายไฟบอกเมนูหรือข้อความต่างๆ
ส่วนการใช้แสงไฟควรเน้นมิติภายในร้านไม่ให้แบนเกินไป ถ้าเพดานร้านสูงมาก
และรู้สึกว่าบนอากาศมีพื้นที่โล่งมากเกินไป
ก็ควรติดโคมไฟเพราะโคมไฟนอกจากจะมีหน้าที่หลักคือการให้แสงสว่างแล้วยังเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศอบอุ่นน่านั่ง
จะเห็นว่าแทบทุกร้าน จะต้องมีโคมไฟห้อยโดยเฉพาะด้านบนของเคาน์เตอร์
โดยทั่วไปสไตล์ในการตกแต่งร้านกาแฟไม่ได้มีข้อจำกัดตายตัวว่าจะเป็นสไตล์ไหนมีมากมายหลากหลายขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์และความเหมาะสมแต่หลักที่เราพบเห็นส่วนใหญ่ร้านกาแฟส่วนมากจะนิยมกันมี
2 แนวคือ
– แนวธรรมชาติบรรยากาศสบายๆ
(Country)
วัสดุที่ใช้ตกแต่งส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน ทราย
หรือแม้แต่โทนสีที่ใช้ก็ใกล้เคียงกับธรรมชาติเหมือนจำลองธรรมชาติเข้ามาไว้ในร้านบรรยากาศจะสบายๆ
สไตล์นี้จึงเหมาะกับร้านที่อยู่ตามท้องถิ่นหรือชานเมืองมากกว่าในเมือง
แต่บางครั้งก็สามารถอยู่ในเมืองได้ก็ต้องออกแบบให้สอดคล้องกับสถานที่นั้นๆ
– แนวสมัยใหม่ (Modern)
การออกแบบแนวนี้ปัจจุบันจะเห็นมาก
เพราะสามารถปรับใช้ให้กลมกลืนกับงานทั่วไปได้วัสดุที่ใช้ก็มีมากมายหลากหลาย ทั้งไม้
ทั้งโลหะ ฯลฯ มีลูกเล่นมากจะเน้นความเรียบง่าย โดยใช้สีเป็นตัวหลัก เช่น
สีอ่อนสว่างสดใสดูเบาๆ สบายๆ และสีเข้มให้มีน้ำหนักมีจุดเน้นจุดรอง
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบในสไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในหมู่บ้านร้านกาแฟก็คือสไตล์เรโทร
(Retro) หรือสไตล์ย้อนยุคเป็นการนำการตกแต่งในช่วงยุค 60-70
ที่ส่วนใหญ่จะเป็นงานไม้มาใช้เน้นการใช้งานหรือความสวยงามแบบเรียบง่าย
ข้าวของเครื่องใช้
ที่ใช้ตกแต่งอาจดูเป็นของที่ต้องเดินผ่านยุคสมัยมานานมีเรื่องราวให้ติดตามโดยพิจารณาจากเส้นสายวัสดุ
และรูปทรงซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นลวดลายแบบกราฟิกหรือเรขาคณิต
สำหรับเรื่องการใช้สีโดยทั่วไปสไตล์เรโทรจะใช้สีโทนเรียบง่ายอย่างขาวเทาและดำแต่การใช้สีจัดจ้านอย่างสีส้มเข้มสีเหลืองหรือสีเขียวตองบนของตกแต่งอย่างเช่นโคมไฟหมอนแจกันนาฬิกาก็มีให้เห็นเพื่อช่วยเพิ่มสีสันและความรู้สึกได้ดีที่เราเรียกกันว่าเรโทรโมเดิร์น
กับคำพูดที่ว่าพอเวลาผ่านไปโลกมักจะหมุนกลับมาที่เดิมเสมอน่าจะเป็นเรื่องจริงสังเกตได้จากค่านิยมด้านการตกแต่งต่างๆ
เผลอแป๊บเดียวไม่กี่สิบปี ของใช้สุดเชยยุคคุณพ่อ คุณแม่ยังสาว
ก็กลับมาเป็นที่นิยมกันจึงไม่แปลกที่สไตล์การตกแต่งแบบเรโทรกลับมาฮิตอีกครั้งในบ้านเราตอนนี้
สไตล์วินเทจ (Vintage) เป็นการตกแต่งแบบย้อนยุคเช่นกัน
แต่จะมีกลิ่นอายของความโรแมนติกอ่อนหวานแบบคลาสสิกซุกซ่อนในทุกอณูพื้นที่และทุกอารมณ์สัมผัส
การตกแต่งสไตล์วินเทจไม่ว่าจะเป็นวินเทจขนานแท้หรือวินเทจร่วมสมัยคงต้องยอมรับว่ารายละเอียดของสิ่งต่างๆที่ประกอบกันขึ้นเช่นการเลือกรูปทรงเฟอร์นิเจอร์ที่มีเส้นโค้งอย่างเก้าอี้ทรงหลุยส์การเลือกใช้โทนสีห้องหรือสีผ้าที่มักออกสีหวานตุ่นๆรวมไปถึงของตกแต่งกระจุกกระจิกอื่นๆ
ที่ดูมีความอ่อนหวานหรือสื่อความเป็นหญิงสาวแสนหวานได้อย่างชัดเจน
แบบฉบับของความโรแมนติกนี้ยังครอบคลุมถึงการตกแต่งอีกหนึ่งสไตล์ที่เรียกขานกันว่าอิงลิชคันทรี
(English
Country) หรือชนบทอังกฤษจะออกแนวแข็งแรงแต่อ่อนหวานโดยเน้นเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้เนื้อแข็งประกอบกับการใช้สีอ่อนหวานอย่าง
สีขาว สีครีม หรือสีที่มาจากธรรมชาติรอบตัว เช่น
สีเขียวเข้มของใบไม้สีน้ำตาลปนแดงของดิน
และสีสดใสของพืชพรรณสอดรับกับผ้าลายดอกกระจุ๋มกระจิ๋ม
หรือผ้าลายตาหมากรุกที่นำมาทำเป็นผ้าม่านและผ้าบุต่างๆ
ขณะที่ของตกแต่งเป็นได้ทั้งของเก่าสะสมและของใช้ในชีวิตประจำวันรวมทั้งการติดรูปภาพที่สื่อถึงบรรยากาศในชนบทเช่นภาพดอกไม้พรรณไม้แมลงหรือภาพภาชนะ
และข้าวของเครื่องใช้โดยไม่จำเป็นต้องติดตรงเป็นระเบียบแนวเดียวเพราะความน่ารักของสไตล์นี้อยู่ที่การจัดวางแบบง่ายๆ
ดูเป็นกันเองและผ่อนคลายนั่นเอง
นอกจากนี้การตกแต่งร้านกาแฟยังมีอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสไตล์ตะวันออกพื้นบ้านแบบไทยๆสไตล์ล้านนาสไตล์บาหลีสไตล์ไทย+โมเดิร์นตะวันตกสไตล์โทนอบอุ่นหรือสไตล์การแต่งร้านแนวมิกซ์แอนด์แมตช์ที่ได้เก็บเอาบรรยากาศของสิ่งที่ชอบมารวมเอาไว้ภายในร้านอย่างกลมกลืน
ดังนั้นสไตล์ในการออกแบบตกแต่งจึงไม่มีข้อสรุปตายตัวขึ้นกับเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าหรือความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้านเป็นหลักอย่างไรก็ตามการออกแบบเป็นการสร้างเอกลักษณ์ของร้านให้คนจดจำได้ง่ายรวมถึงเป็นการสร้างบรรยากาศให้ลูกค้ารู้สึกดีและยังเป็นตัวเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย
ในทางตรงข้ามถ้าร้านกาแฟออกแบบไม่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าก็จะทำลายจุดขายได้เพราะพฤติกรรมลูกค้าที่จะเข้ามาในร้านส่วนมากไม่ได้มานั่งดื่มหมดแล้วเดินจากไปแต่มานั่งเพื่อพูดคุยติดต่องานหรือนั่งทำงานซึ่งถ้าเข้ามาแล้วให้ความรู้สึกที่ดีน่าประทับใจก็จะทำให้ลูกค้าแวะเวียนมาร้านของคุณบ่อยขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น